
หลายคนยังมอง “บ้าน” เป็นแค่ที่อยู่อาศัย
แต่สำหรับนักลงทุน…บ้านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า คือ Asset ที่สร้างเงินได้หลายทาง
เพราะบ้านแบบนี้ ไม่ได้แค่ “อยู่” ได้…แต่ “ใช้” ทำงาน-สร้างรายได้-ปล่อยเช่า ได้หมด
“อสังหาริมทรัพย์ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ตึก แต่คือ ‘ที่ดินที่มีศักยภาพในอนาคต'”
บ้านนอกโครงการแต่ใกล้รถไฟฟ้า มีคุณสมบัติสำคัญ 3 อย่าง:
1. Rare Location – ที่ดินใกล้สถานีรถไฟฟ้ามีจำนวนจำกัด
ยิ่งไม่ได้อยู่ในโครงการจัดสรร ยิ่งมี “ความยืดหยุ่น” สูง
ปรับเป็นที่อยู่อาศัยก็ดี ทำเป็นสำนักงานก็ได้ ไม่ติดข้อจำกัดนิติบุคคล
2. Landbank Potential – ทรัพย์ประเภทนี้สามารถถือเก็บยาว
โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มมากมาย แต่ราคาจะโตตามการพัฒนาเมือง
3. ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้หลากหลาย –
เปิดเป็น Home Office, คลินิก, ร้านอาหาร, ออฟฟิศเล็ก
หรือแบ่งเช่าพื้นที่ใช้สอยก็ทำได้ง่ายกว่าคอนโดหรือโครงการจัดสรรทั่วไป
ทำเลติดรถไฟฟ้า = เครื่องจักรเพิ่มมูลค่า
สถิติจาก REIC พบว่า
ที่ดินติดรถไฟฟ้า (ระยะ 0–200 เมตร) มีโอกาสราคาขึ้นเฉลี่ย 6–10% ต่อปี
สูงกว่าทำเลทั่วไปถึง 2 เท่า
และหากเป็น บ้านนอกโครงการที่ติดรถไฟฟ้า นับว่าเป็น Rare Asset ที่นักลงทุนจับตามอง
ปรับเปลี่ยนเป็น Commercial Use
หนึ่งในศักยภาพที่ถูกมองข้ามของ “บ้านนอกโครงการติดรถไฟฟ้า” ก็คือ การเปลี่ยนจากบ้านอยู่อาศัย มาเป็นทรัพย์เชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ
ถ้าบ้านของคุณมี หน้ากว้าง และอยู่ในซอยที่ คนสามารถเดินจากสถานีรถไฟฟ้าได้จริง
คุณแทบไม่ต้องทำอะไรมากเลย ก็สามารถ:
เปิดเป็น คาเฟ่เก๋ๆ ที่คนเดินผ่านทุกวัน
ปรับเป็น ร้านอาหาร หรือคลินิก ที่คนในชุมชนใช้งานประจำ
หรือจะทำ ออฟฟิศ ให้กับธุรกิจ SME, สตาร์ตอัป หรือบริษัทข้ามชาติที่ต้องการพื้นที่กลางเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลที่มี MRT ผ่านหน้าบ้าน
การที่มีคนเดินผ่าน–เข้า–ออกทั้งวัน
= โอกาสทางธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าโฆษณาก็ยังมีลูกค้า
ต่างจากบ้านทั่วไปที่ปล่อยเช่าเพื่ออยู่อาศัย
การใช้พื้นที่แบบ Commercial จะสร้างรายได้สูงกว่า เพราะ:
ค่าเช่า Commercial สูงกว่าที่อยู่อาศัย 2–3 เท่า
ลูกค้ามักทำสัญญาระยะยาว
พื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการธุรกิจ โดยเจ้าของยังคงควบคุมมูลค่าได้
และนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนระดับมืออาชีพให้ค่ามากกว่ารูปร่างหน้าตาของตัวบ้าน
พวกเขามองว่า “ที่ดินที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย คือทรัพย์สินที่ทำเงินแบบไม่หยุดนิ่ง”
ตัวอย่างบ้านติดรถไฟฟ้า เช่น:
𝗔𝗥𝗕𝗢𝗥 𝗨𝗥𝗕𝗔𝗡 𝗘𝗸𝗸𝗮𝗺𝗮𝗶-𝗟𝗮𝗱𝗽𝗿𝗮𝗼
ทาวน์โฮมหรู 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยสูงถึง 485 ตร.ม.
เดินเพียง 50 เมตรถึง MRT มหาดไทย
ออกแบบรองรับการทำ Home Office ได้จริง รองรับพนักงาน 20–30 คน
ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 ใกล้ถนนใหญ่
รายล้อมด้วย Community Mall, ฟิตเนส, ร้านอาหาร, โรงเรียน และโรงพยาบาล
เริ่มต้นเพียง 39.9 ล้านบาท สำหรับบ้านระดับ Rare Asset
ซึ่งสามารถสร้างรายได้ทันที หรือเก็บไว้เก็งกำไรก็ได้
ติดต่อ : 083-987-9944
บทสรุป:
ในวันที่ต้นทุนการเงินสูงขึ้น การเลือกบ้านจึงไม่ใช่แค่ “ที่อยู่”
แต่คือ “กลยุทธ์การเงินระยะยาว”
เพราะคุณอาจไม่ได้ซื้อแค่บ้าน
แต่กำลังซื้อ “สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของพื้นที่ทำเงิน” ที่หาใหม่แทบไม่ได้อีกแล้ว