
เมื่อไฟเขียวจากสหรัฐฯ ยังสู้ด่านจริงในจีนไม่ได้
แม้ว่า NVIDIA จะได้รับอนุญาตให้กลับมาส่งออกชิปเข้าจีนอีกครั้ง
แต่เบื้องหลัง “ดีลชิป” ที่คนทั่วไปอาจมองว่าเป็นข่าวดี มันกลับเต็มไปด้วยกับดัก ทั้งเรื่องการผลิตที่ยังสะดุด และการขนส่งที่เหมือนต้องเดินผ่านด่าน 10 ชั้น
โรงงานพันธมิตรในจีนที่เคยผลิตให้ NVIDIA ต้องกลับมานั่งปรับสายการผลิตใหม่ทั้งหมด
เพื่อรองรับชิปสถาปัตยกรรม Ampere รุ่นล่าสุด ซึ่งไม่ใช่แค่เปลี่ยนเครื่องจักร แต่ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่เข้มงวดกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน การทดสอบคุณภาพแต่ละล็อตก็ใช้เวลานาน ส่งผลให้การผลิตยัง “ไม่ฟื้นเต็มตัว”
พอผลิตเสร็จ ยังไม่จบ…
เพราะการจะขนชิปเข้าไปถึงมือลูกค้าในจีน ต้องผ่านการตรวจสอบทั้งฝั่งจีนเอง
และที่สำคัญคือด่านศุลกากรสหรัฐฯ ที่ตั้งเงื่อนไขเยอะมาก ไม่ให้ชิปเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมทหารหรือหน่วยงานที่อ่อนไหว
การตรวจแบบละเอียดระดับ molecule นี้เองที่ทำให้หลายคำสั่งซื้อ “ต้องเลื่อนส่ง” โดยที่ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเดินหน้าได้ตามปกติ
แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมาคือยอดขายในจีนที่เคยเป็นเครื่องจักรสำคัญของ NVIDIA เริ่มสะดุด
แม้บริษัทจะยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ momentum ที่เคยเติบโตแบบไม่หยุด กลับเริ่มแผ่วลงอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม NVIDIA ก็ไม่ใช่บริษัทที่ยอมแพ้ง่าย ๆ เพราะระหว่างที่ติดหล่มอยู่นี้ พวกเขากำลังเร่งพัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ พร้อมขยายพันธมิตรในจีนเพิ่มเติม
ซึ่งหากแผนนี้เวิร์ก ก็อาจทำให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งแค่เส้นทางโลจิสติกส์แบบเดิม และอาจกลับมาชิงพื้นที่ในตลาดจีนได้อีกครั้ง
นี่คือภาพสะท้อนว่า “ไฟเขียวจากรัฐบาล” ไม่ได้แปลว่าธุรกิจจะเดินหน้าได้ทันที
เพราะในโลกยุคใหม่ ทุกการเคลื่อนไหวของธุรกิจเทคโนโลยีล้วนมีการเมืองเป็นตัวแปร
และสำหรับนักลงทุน สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า…
แม้ NVIDIA จะยังเป็นเจ้าตลาด AI แต่การเติบโตจากจีนอาจไม่กลับมาแรงเท่าเดิม
อย่างน้อยก็ในระยะสั้นที่โลกยังเต็มไปด้วยกำแพงเทคโนโลยี
