Palantir: หุ้น AI รัฐบาล พุ่งสวนกระแสเทคโนโลยี
ท่ามกลางภาวะซบเซาของหุ้นเทคโนโลยีในปี 2025
ชื่อหนึ่งกลับกลายเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นเกินคาด
Palantir Technologies บริษัทที่พัฒนาแพลตฟอร์ม AI สำหรับภาครัฐ
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 70%
กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดของดัชนี S&P 500
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่เผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
Palantir กลับเติบโตอย่างมั่นคงด้วยจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร
AI ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนทั่วไป
แพลตฟอร์มของ Palantir ถูกใช้ในภารกิจระดับประเทศ
ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรอง การควบคุมชายแดน
ไปจนถึงการวางแผนยุทธศาสตร์ทางทหาร
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้รับสัญญาจาก ICE มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์
เพื่อพัฒนาระบบตรวจสอบผู้อพยพผิดกฎหมาย
นับเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของหน่วยงานนี้ในรอบกว่า 10 ปี
ความได้เปรียบที่ไม่อยู่ในงบวิจัย
เบื้องหลังการเติบโตของ Palantir
ไม่ได้มาจากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว
แต่ยังรวมถึงสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่แข็งแกร่ง
Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง มีบทบาทเชิงนโยบายในรัฐบาลสหรัฐฯ
และเชื่อมโยงใกล้ชิดกับทั้งอดีตประธานาธิบดีและนักการเมืองระดับสูงในสภา
ในยุคที่สหรัฐฯ กลับมาให้ความสำคัญกับ “ความมั่นคง” และ “America First”
บริษัทที่ตอบโจทย์นโยบายเหล่านี้ ย่อมได้รับแรงส่งโดยตรง
รายได้จากรัฐบาลยังคงเป็นหัวใจ
42% ของรายได้ในไตรมาสล่าสุดมาจากหน่วยงานรัฐ
รายได้ธุรกิจในประเทศ 29%
รายได้จากต่างประเทศลดลง 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนว่า Palantir เป็น “ผู้เล่นสายรัฐ”
ในขณะที่บริษัทเทคอื่นยังคงแข่งขันกันในตลาดผู้บริโภค
มูลค่าหุ้นสะท้อนความคาดหวัง
Forward P/E ของ Palantir อยู่ที่ 200 เท่า
สูงกว่าบริษัทเทคส่วนใหญ่ในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ตัวเลขนี้ไม่ใช่ฟองสบู่ในสายตานักลงทุนจำนวนมาก
เพราะแพลตฟอร์มของ Palantir กำลังขยายเข้าสู่ภาคเอกชน
โดยนำเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในภารกิจรัฐบาล มาเปิดให้บริษัทต่าง ๆ จำลองสถานการณ์ ประเมินโมเดล AI และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
เทคโนโลยีแบบไหน ที่รอดในโลกความไม่แน่นอน?
ในโลกที่ตลาดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์เริ่มอิ่มตัว
บริษัทที่มีลูกค้าเป็น “รัฐบาล” และสามารถตอบโจทย์ด้านความมั่นคง
อาจมีภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า
แต่ภาพลักษณ์ที่ผูกโยงกับนโยบายระดับรัฐ ก็อาจสร้างข้อจำกัด
โดยเฉพาะเมื่อขยายไปยังประเทศอื่นที่มองความร่วมมือด้านความมั่นคงต่างออกไป
Palantir ไม่ใช่แค่บริษัทเทคโนโลยี แต่คือส่วนหนึ่งของโครงสร้างยุทธศาสตร์สมัยใหม่
ในช่วงที่เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์เริ่มชะลอตัว
ทิศทางใหม่ของตลาดอาจไม่ใช่แอปหรือแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิง
แต่คือเทคโนโลยีที่ทำให้ประเทศมั่นคง และควบคุมความเสี่ยงระดับโลกได้ดีขึ้น
