
เรื่องนี้อธิบายง่ายๆ แต่หลายคนยังเข้าใจผิด
ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลายคนที่ติดตามราคาทองคงรู้สึกแปลกใจ…
เพราะข่าวจากต่างประเทศรายงานว่า
ราคาทองคำโลก (Gold Spot) ขึ้นไปเหนือ $3,330 ต่อออนซ์
แต่พอหันมาดูราคาทองในไทย กลับปรับ “ลดลง” อย่างชัดเจน
หลายคนงง… บางคนโวย…
แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีคำอธิบายง่ายๆ ครับ
เพราะ “เงินบาท” แข็งขึ้น
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568
เงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ระดับ 32.42 บาทต่อดอลลาร์
แข็งขึ้นแบบเร็วๆ ภายในไม่กี่วัน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้อ่อนลงไปแถว 36 บาทต่อดอลลาร์เมื่อปีก่อน
การแข็งค่าของเงินบาทแบบนี้
หมายความว่า เราใช้เงินบาท “น้อยลง” ในการซื้อของที่อิงกับดอลลาร์
ทองคำก็เป็นหนึ่งในนั้น
ราคาทองคำไทย = ราคาทองโลก x ค่าเงินบาท
ยกตัวอย่างง่ายๆ:
ถ้าทองคำโลกราคาเดิม แต่ค่าเงินบาทแข็ง → ราคาทองไทย “ถูกลง”
ถ้าทองคำโลกขึ้น แต่เงินบาทแข็งแรงกว่า → ทองไทยก็ยัง “ลง” ได้อยู่ดี
ในช่วงนี้คือกรณีที่ 2 ครับ
ทองโลกขึ้น แต่เงินบาทแข็งแรงกว่า → ทองในไทยเลยลง
แล้วทำไมเงินบาทถึงแข็ง?
เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย
นักลงทุนต่างชาติขายดอลลาร์ แล้วซื้อเงินบาท
และที่สำคัญ ดอลลาร์เองก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน
ทั้งหมดนี้ทำให้เงินบาทแข็งเร็ว
และกดดันราคาทองในประเทศให้ลดลงตาม
แล้วทำไมราคาทองโลกช่วงนี้ถึง “นิ่ง” ไม่ไปไหน?
ถึงแม้ทองโลกจะยืนเหนือ $3,300 ได้
แต่มันก็ไม่ได้พุ่งต่อแบบแรงๆ เพราะ…
เงินเฟ้อในสหรัฐยังนิ่ง
ล่าสุดอยู่แถว 2.4%
นักลงทุนจึงยังไม่เร่งซื้อทองเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ
ดอกเบี้ย Fed ยังไม่ลด
ตลาดรอลุ้นเดือนกันยายน
เพราะไม่มีประชุมในเดือนสิงหาคม
โลกยังไม่เจอวิกฤตรุนแรง
ไม่มีสงครามใหม่ หรือข่าวที่ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก
ทองจึงไม่พุ่งเป็น Safe Haven
ธนาคารกลางหลายประเทศชะลอซื้อทอง
โดยเฉพาะจีนและอินเดีย เมื่อราคาทองอยู่สูง
กองทุน ETF ทองคำ ยังไม่เพิ่มสถานะมากนัก
สะท้อนว่านักลงทุนสถาบันยังรอดูทิศทางก่อน
แล้วนักลงทุนไทยควรทำยังไง?
สิ่งสำคัญคือ
อย่าดูแค่ราคาทองโลก แต่ต้องดู “เงินบาท” ควบคู่ไปด้วยเสมอ
เพราะต่อให้ราคาทองโลกขึ้น แต่ถ้าเงินบาทแข็งมากพอ
ราคาทองในไทยก็ยังลดได้เหมือนเดิม
ใครที่เก็งกำไรในระยะสั้น ควรจับตาทั้งสองฝั่งให้ดี
ส่วนใครที่ถือทองระยะยาวเพื่อกระจายความเสี่ยง
ก็ยังไม่มีอะไรน่ากังวลในช่วงนี้
สุดท้าย…
ราคาทองไทยจะขึ้นหรือลงในแต่ละวัน
บางที “ไม่ใช่เพราะทอง” แต่เป็นเพราะ “ค่าเงิน”
ทองคำไม่ได้เปลี่ยน…
แต่โลกการเงินเปลี่ยนทุกวัน
เข้าใจให้ทัน เราจะเลือกจังหวะลงทุนได้แม่นกว่าเดิม
——
XM คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์นักลงทุนสายวิเคราะห์สถานการณ์ ด้วยจุดแข็ง:
มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 1,400 รายการ รวมถึงน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์
มีบทวิเคราะห์และงานวิจัยฟรีจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น
โบนัสต้อนรับฟรี $30 สำหรับผู้เริ่มต้นโดยไม่ต้องฝากเงิน
มีระบบ Copy Trading ให้มืออาชีพเทรดแทนคุณ ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง