
สหรัฐฯ คว่ำบาตรศาลโลก ความยุติธรรมหรือการใช้อำนาจ?
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2025 รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรผู้พิพากษาศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) 4 ราย โดยอายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ และสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ มาตรการนี้เป็นผลมาจากความไม่พอใจที่ ICC อนุมัติหมายจับต่อผู้นำอิสราเอล และเริ่มกระบวนการสอบสวนกรณีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯ
ผู้พิพากษาทั้ง 4 รายมาจากหลากหลายประเทศ — เบนิน, สโลวีเนีย, เปรู และยูกันดา — โดยแต่ละคนมีบทบาทสำคัญในคดีที่ถูกมองว่าเกี่ยวพันกับพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
แม้การคว่ำบาตรในครั้งนี้จะเกิดขึ้นภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ แต่ก็สร้างแรงสะเทือนต่อเวทีความยุติธรรมระหว่างประเทศ หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกดดันองค์กรอิสระอย่าง ICC ที่มีบทบาทในการสอบสวนอาชญากรรมสงครามและละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
องค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น Human Rights Watch และ Amnesty International ออกมาวิพากษ์ว่าการกระทำของสหรัฐฯ เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอาจบ่อนทำลายความพยายามของประชาคมโลกในการยืนหยัดบนหลักนิติธรรม
ผลกระทบที่แผ่กว้างกว่าขอบเขตของศาล
แม้การคว่ำบาตรในครั้งนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องภายในระหว่างสหรัฐฯ กับ ICC แต่ในความเป็นจริงกลับมีผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อโครงสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และอาจสะเทือนถึงประเทศอื่น ๆ รวมถึงไทยด้วย
- ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ บนเวทีโลก: การปะทะกับองค์กรที่มีฐานะกลางอย่าง ICC อาจทำให้พันธมิตรตะวันตกบางประเทศ เช่นในยุโรป ซึ่งให้สัตยาบันสนับสนุน ICC รู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ
- การเลือกข้างในระเบียบโลกใหม่: หลายประเทศกำลังพยายามรักษาสมดุลระหว่างอำนาจใหญ่ เช่น สหรัฐฯ กับองค์กรพหุภาคี และในบริบทนี้ ประเทศอย่างไทยต้องคิดให้รอบคอบว่า จะยืนอยู่ตรงจุดใดของเกมการเมืองโลกที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ
- ผลต่อการค้าและเศรษฐกิจ: ความขัดแย้งระดับโลกที่พัวพันกับสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศมักนำไปสู่การปรับท่าทีทางเศรษฐกิจ เช่น การทบทวนข้อตกลงทางการค้า หรือแรงกดดันทางการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศพึ่งพาการส่งออกอย่างไทยต้องติดตามใกล้ชิด
บทเรียนสำหรับประเทศที่อยู่ระหว่างมหาอำนาจ
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ความยุติธรรมจะมีกรอบที่ชัดเจนในเชิงหลักการ แต่ในทางปฏิบัติ มันมักต้องเผชิญกับอิทธิพลของอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจ
สำหรับประเทศที่ไม่ได้เป็นผู้เล่นหลักบนกระดานโลก การรักษาความสมดุลระหว่างอุดมคติด้านสิทธิมนุษยชน กับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจ กลายเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนอย่างมาก
สรุป
การที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรศาลโลกในครั้งนี้ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องการเมืองเฉพาะกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเวทีโลก ที่ชี้ให้เห็นว่าระเบียบโลกที่ยึดตาม “กฎหมาย” กำลังถูกท้าทายจากโลกที่ขับเคลื่อนด้วย “อำนาจ”
สำหรับประเทศเล็กหรือประเทศเศรษฐกิจเปิดอย่างไทย นี่คือสัญญาณว่า การวางตำแหน่งตัวเองอย่างชาญฉลาดบนเวทีโลก จะยิ่งสำคัญขึ้นทุกวัน
