
เมื่อความฝันของนักเล่นแร่แปรธาตุ เจอกับความจริงทางฟิสิกส์
ย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อน มีนักเล่นแร่แปรธาตุที่เชื่อว่า
“ถ้าสามารถเปลี่ยนตะกั่วให้กลายเป็นทองคำได้”
พวกเขาจะร่ำรวยมหาศาลโดยไม่ต้องขุดเหมืองทองคำสักแห่งเดียว
แต่วันนี้ แม้วิทยาศาสตร์จะก้าวไกลถึงขั้น เปลี่ยนตะกั่วเป็นทองคำได้จริง
คำถามคือ..
“ทำไมมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทำเพื่อหาเงิน?”
คำตอบนั้นอยู่ในตัวเลข
เปลี่ยนตะกั่วเป็นทองคำ ต้องใช้พลังระดับ “เทพเจ้าแห่งอนุภาค”
ในเชิงวิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงธาตุจากตะกั่ว (Pb) ที่มีเลขอะตอม 82
ให้กลายเป็นทองคำ (Au) ที่มีเลขอะตอม 79 ต้องอาศัยพลังงานมหาศาล
ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Nuclear Transmutation
หรือการเปลี่ยนโครงสร้างนิวเคลียสของอะตอม
ซึ่งไม่สามารถทำได้ในห้องแล็บธรรมดา
แต่ต้องใช้ เครื่องเร่งอนุภาค (Particle Accelerator)
ระดับเดียวกับที่ใช้ใน CERN ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นักวิทยาศาสตร์เคยทดลองเปลี่ยน Bismuth (ธาตุใกล้เคียงตะกั่ว) ให้กลายเป็นทอง
และได้ทองคำเพียง ไม่กี่อะตอม
แต่ต้นทุนของการสร้างทองคำเพียง “หนึ่งอะตอม”
กลับสูงถึง $10,000
ถ้าจะเปลี่ยนให้ได้ทอง 1 ออนซ์ ต้องใช้เงินเท่าไร?
ทองคำ 1 ออนซ์ = 31.1 กรัม
ทองคำ 1 อะตอมหนัก ≈ 3.27 × 10⁻²² กรัม
แปลว่าทองคำ 1 ออนซ์มีอะตอมประมาณ 5.9 × 10²² อะตอม
ถ้าทำทองได้ 1 อะตอม ต้องจ่าย $10,000
→ ถ้าจะได้ทอง 1 ออนซ์ ต้องจ่ายเงิน…
$10,000 × 5.9 × 10²² = 590 เซ็กซ์ทริลเลียนดอลลาร์
หรือถ้าคิดเป็นเงินบาท (ที่ $1 ≈ 35 บาท)
ประมาณ 20 ล้านล้านล้านล้านบาท
นั่นหมายความว่า…
ทองคำที่สังเคราะห์ขึ้น 1 ออนซ์ จะมีมูลค่ามากกว่างบประมาณทั้งโลก รวมกันหลายล้านเท่า
แล้วทำไมยังมีคนอยากจะทำ?
เพราะมนุษย์ไม่เคยหยุดฝัน
ตั้งแต่ยุคกลาง นักเล่นแร่แปรธาตุฝันถึงการเปลี่ยนดินให้เป็นทอง
ในปัจจุบัน แม้เรารู้ว่า “มันไม่คุ้มทุน”
แต่นักฟิสิกส์ยังสนใจเรื่องนี้เพื่อ ศึกษาโครงสร้างของอะตอม
และพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานและอนุภาคขั้นสูง
พูดง่ายๆ ก็คือ…
ความรู้จากการเปลี่ยนตะกั่วเป็นทอง มีค่าในทางวิทยาศาสตร์
แต่ไม่มีค่าในเชิงเศรษฐกิจ
บทเรียนของนักลงทุนจากเรื่องนี้
แยกแยะระหว่าง “เป็นไปได้” กับ “คุ้มค่าหรือไม่”
หลายอย่างในโลกทำได้จริง แต่ถ้าไม่คุ้ม ก็ไม่ควรทำ
อย่าหลงกับความล้ำของเทคโนโลยี ถ้ามันยังไม่สร้างกำไรจริง
จงลงทุนในความเป็นจริง ไม่ใช่ในความฝัน
เพราะแม้แต่ “ทองคำ” ที่ใครก็ว่าเป็นของมีค่า
ถ้าคุณผลิตมันในต้นทุนที่บ้าบอ
ก็ไม่มีใครซื้ออยู่ดี
ถ้าถือได้นานกว่า ก็รวยก่อน
แต่ถ้าไม่รู้ว่าอะไร “คุ้มถือ” และอะไร “ควรปล่อยฝันทิ้ง”
สุดท้ายอาจต้องจ่ายแพงแบบตะกั่วที่อยากเป็นทอง