

โลกเริ่มไม่ง้อดอลลาร์?
13 ประเทศเอเชียเปิดทางใช้ “เงินหยวน” แทนเงินสหรัฐฯ
ลองจินตนาการดูว่า…
ถ้าโลกเกิดวิกฤตการเงินขึ้นมาอีกครั้ง แล้วคราวนี้ “ดอลลาร์สหรัฐฯ” ไม่ใช่ทางออกหลักของปัญหาอีกต่อไป?
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่จินตนาการอีกแล้ว
เพราะตอนนี้มี 13 ประเทศในเอเชียที่เพิ่งประกาศว่า…
จะใช้ “เงินหยวนจีน” เป็นทางเลือกใหม่ในการช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉิน
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้นทุกวัน
การเคลื่อนไหวนี้เรียกว่า De-dollarization หรือ “การลดการพึ่งพาดอลลาร์”
ซึ่งกำลังค่อย ๆ ขยายตัวไปทั่วโลก
และเริ่มชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่มีวิกฤต หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ทำไมดอลลาร์ถึงเริ่มถูกลดบทบาท?
ดอลลาร์เคยเป็นเหมือน “เบอร์หนึ่ง” ของโลก
ทุกประเทศถือดอลลาร์ไว้สำรอง
ซื้อขายน้ำมันก็ใช้ดอลลาร์
แม้แต่ตอนขอความช่วยเหลือจาก IMF ก็ยังจ่ายเป็นดอลลาร์
แต่หลังจากสหรัฐฯ ใช้ดอลลาร์เป็นเครื่องมือในการคว่ำบาตรประเทศอื่น
เช่น รัสเซีย อิหร่าน รวมถึงคู่แข่งสำคัญอย่างจีน
หลายประเทศก็เริ่ม “ไม่ไว้ใจ” ระบบที่พึ่งพาเงินของประเทศเดียวมากเกินไป
“ถ้าระบบที่ใช้ร่วมกัน กลายเป็นอาวุธของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง… มันก็ไม่ใช่ระบบกลางอีกต่อไป”
จอยซ์ ชาง จาก J.P. Morgan พูดไว้ชัดเจนว่า
โลกกำลังแบ่งขั้วทางการเงิน และนี่คือแรงผลักสำคัญที่ทำให้หลายประเทศอยากพึ่งตัวเองให้มากขึ้น
13 ประเทศในเอเชียเริ่มหันมาใช้ “หยวนจีน”
ภายใต้กลไกที่ชื่อว่า Chiang Mai Initiative Multilateralization (CMIM)
ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือด้านการเงินระหว่างอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ล่าสุดทุกประเทศลงมติเห็นชอบให้ “เงินหยวนจีน” กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินสำรองที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แทนที่จะใช้ดอลลาร์สหรัฐเพียงอย่างเดียว
นี่ถือเป็น “การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง” ที่เกิดขึ้นจริงครั้งแรกในระดับภูมิภาค
และประเทศไทยก็อยู่ใน 13 ประเทศนั้นด้วย (แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่ามีไทย)
CMIM ถูกตั้งขึ้นหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง เพื่อให้ประเทศในเอเชียมีแหล่งเงินฉุกเฉินที่ไม่ต้องพึ่ง IMF ตลอดเวลา
และการเพิ่มเงินหยวนเข้ามาในระบบ แปลว่า จีนเริ่มมีบทบาทแทนที่ดอลลาร์แล้วอย่างชัดเจน
แล้วดอลลาร์กำลังจะหมดอำนาจจริงไหม?
ยังครับ… ยังไม่ถึงจุดนั้น
เพราะถ้ามองในระดับโลก ดอลลาร์ยังเป็น “พี่ใหญ่” อยู่ดี
ข้อมูลจาก IMF ล่าสุดบอกว่า
ดอลลาร์ยังครองสัดส่วนเงินทุนสำรองโลกมากถึง 57%
แต่ก็ลดลงจาก 70% ในช่วงปี 2001
คำถามสำคัญคือ:
ดอลลาร์กำลังค่อย ๆ เสื่อมหรือเปล่า?
หรือแค่เริ่ม “มีคู่แข่ง” เข้ามาแบ่งบทบาท?
จีนเองก็เดินเกมรุก… และเดินมานานแล้ว
ตั้งแต่ปี 2009 จีนก็เริ่มปั้นเงินหยวนให้เป็นสากล
มีตลาดพันธบัตร Dim Sum
มีระบบชำระเงินข้ามประเทศเป็นหยวน
และขยายการใช้เงินหยวนในตลาดการค้าระหว่างประเทศ
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
หยวนกลายเป็น สกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนมากที่สุดของจีน แซงหน้าดอลลาร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แล้วสิ่งนี้จะกระทบคนทั่วไปยังไง?
ถ้าคุณถือดอลลาร์ไว้เยอะ การอ่อนค่าหรือบทบาทที่ลดลงของมันอาจกระทบ “อำนาจซื้อ” โดยเฉพาะในระยะยาว
ประเทศกำลังพัฒนาอาจไม่จำเป็นต้องกู้เงินเป็นดอลลาร์อีกต่อไป ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากค่าเงินผันผวน
นักลงทุนต้องจับตา “การเปลี่ยนขั้วอำนาจการเงินโลก” ว่าจะส่งผลต่อการไหลของเงินทุนระหว่างประเทศอย่างไร
บทสรุป: ดอลลาร์ยังอยู่ แต่ไม่ได้ “อยู่คนเดียว”
การที่ 13 ประเทศในเอเชียเริ่มใช้หยวนจีนในการตั้งรับภาวะฉุกเฉิน
คือจุดเปลี่ยนเล็ก ๆ ที่อาจนำไปสู่โลกที่ไม่ต้องพึ่งพาสกุลเงินเดียวอีกต่อไป
แม้ดอลลาร์ยังไม่ล้ม แต่ตอนนี้ กำลังถูกแชร์เวที
และสิ่งที่ต้องจับตามองต่อไปคือ
ใครจะเป็นคนต่อไปที่ “เดินออกจากเงาของดอลลาร์”?